เจ้าหน้าที่ออกหมายจับหญิงสูงวัยชาวอเมริกัน เพราะไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยขณะเข้าไปทำธุรกรรมทางการเงินในธนาคารแห่งหนึ่งในรัฐเทกซัส ยังกล้าท้าตำรวจว่า “กล้ามาจับฉันเหรอ”

สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองกัลเวสตัน รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา หนังสือพิมพ์เดอะกัลเวสตัน เคาน์ตี้ เดลี่ นิวส์ รายงานว่า ตำรวจได้ออกหมายจับนางเทอร์รี ไรท์ วัย 65 ปี จากเมืองแกรนท์ พาส รัฐออริกอน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ในธนาคารแบงก์ออฟอเมริกา ซึ่งมีภาพจากกล้องติดตามตัวของตำรวจจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ โดยหมายจับของตำรวจได้แจ้งข้อหาขัดขวางการจับกุมและบุกรุก

นายเกร็ก แอบบอต ผู้ว่าการรัฐเท็กซส กล่าวว่า คำสั่งของรัฐเทกซัสให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะหมดอายุไปแล้ว จึงให้ภาคธุรกิจห้างร้านต่างๆ พิจารณากันเอาเองเรื่องมาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปรากฏว่ายังมีธุรกิจหลายอย่างที่ยังคงขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่

ตำรวจเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากผู้จัดการธนาคารในวันเกิดเหตุว่า นางไรท์ปฏิเสธที่จะสวมหน้ากากอนามัยขณะเข้ามาใช้บริการธุรกรรมทางการเงินภายในธนาคาร และยังไม่ยอมออกจากธนาคารเมื่อได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ ส่วนนางไรท์เปิดเผยว่า เข้ามาที่ธนาคารเพื่อถอนเงินสด แต่เจ้าหน้าที่ขอให้เธอออกไปข้างนอกหรือไม่ก็สวมหน้ากากอนามัยเสียก่อน แต่เธอปฏิเสธและยังกล้าท้าทายตำรวจว่ากล้ามาจับฉันเหรอ เธออ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าตามกฎหมายแล้ว เธอไม่จำเป็นที่จะต้องสวมหน้ากากอนามัย เจ้าหน้าที่พยายามที่จะจับเธอใส่กุญแจมือ แต่เธอก็เดินหนีและเดินออกไปทางประตู เจ้าหน้าที่สั่งให้เธอหยุด และบังคับให้เธอล้มตัวลงนอนกับพื้น แล้วจับใส่กุญแจมือ เธอบอกอีกว่า เท้าได้รับบาดเจ็บ และยังตะโกนบอกกับผู้มาใช้บริการคนอื่นๆว่าตำรวจทำร้ายประชาชน ตำรวจบอกอีกว่าเธอได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยระหว่างการจับกุม และนำส่งโรงพยาบาลแล้ว

นางไรท์ บอกกับวอชิงตันโพสต์ด้วยว่า เธอไม่เคยใส่หน้ากากปิดใบหน้าแม้อยู่ในห้างสรรพสินค้า แม้แต่ตอนคำสั่งรัฐยังมีผลบังคับใช้ก็ตาม