ความหวังเรื่องวัคซีนและการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ทำให้ราคาทองคำดิ่งวันเดียวหนักที่สุดในรอบ 7 ปี ฉุดราคาน้ำมันลงไปด้วย ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปิดลบหลังจากบวกมาหลายวัน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 104.53 จุด หรือราว 0.4% ปิดที่ 27,686.91 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 26.78 จุด หรือราว 0.8% ปิดที่ 3,333.69 จุด หยุดสถิติบวกติดต่อกันของดาวน์โจนส์กับเอสแอนด์พีไว้ที่ 7 วันติดต่อกัน ส่วนดัชนีแนสแด็กร่วง 185.53 จุด หรือราว 1.7% ปิดที่ 10,782.82 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในตอนแรก ก่อนจะลดลงไปอยู่ในแดนลบในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากนักลงทุนยังเทขายหุ้นบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่พวกเขากำลังประเมินแนวโนมเศรษฐกิจ ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่การพบผู้ป่วยใหม่เริ่มชะลอตัวลง ขณะที่การเจรจาแพ็กเกจเยียวยาโควิดของรัฐสภาสหรัฐฯ ยังไม่คืบหน้า

ด้านราคาทองคำ ทุบสถิติดิ่งวันเดียวหนักที่สุดในรอบ 7 ปีหากคิดเป็นดอลลาร์ หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาว (10 ปี) พุ่งขึ้นมากกว่า 0.07% ไปอยู่ที่ 0.65% จากความคาดหวังเรื่องวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา และสัญญาณการชะลอตัวของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 93.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4.58% ปิดที่ 1,946.30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

ขณะที่ราคาน้ำมันโดยราคาทองลากลงไปด้วย เนื่องจากนักลงทุนต้องการลดช่องความเสียหาย หลังราคาของโลหะล้ำค่าชนิดนี้ดิ่งหนัก แต่ความคาดหวังว่าปริมาณซัพพลายน้ำมันของสหรัฐฯ จะลดลงอีก ช่วยจำกัดการเทขายในตลาดน้ำมันได้บ้าง

โดยสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 33 เซนต์ หรือราว 0.8% อยู่ที่ 41.61 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 49 เซนต์ หรือราว 1.1% ไปอยู่ที่ 44.50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล