สัปเหร่อชาวบราซิลเผยว่า สุสานใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกาไม่ใหญ่พอจะรับศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แล้ว ด้านอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขฝากไปถึงประธานาธิบดีจาอีร์ โบวโซนารู ที่ตรวจพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อรายล่าสุด

นายอาเดนิลซอน กอสตาทำงานที่สุสานวิลลาฟอร์โมซา ชานนครเซาเปาโล มานานถึง 25 ปี แต่ไม่เคยเห็นสุสานใหม่เต็มเร็วเช่นในขณะนี้มาก่อน ครอบครัวที่กำลังเศร้าโศกต้องเร่งจัดพิธีภายในเวลา 10-15 นาที เพราะสุสานจะต้องรีบฝังศพที่มีมากถึงวันละ 80 ราย เป็นเรื่องน่าตกใจและน่าเศร้ามากเพราะเป็นช่วงเวลาร่ำลาครั้งสุดท้ายให้กับผู้เป็นที่รักที่จากไป แต่พวกเขากลับมีเวลาไม่มากนัก บราซิลมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐ

ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขบราซิลแถลงเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่กว่า 45,000 คน หนึ่งในนั้นประธานาธิบดีโบวโซนารู วัย 65 ปี ผู้นำบราซิลเผยว่า เขาติดเชื้อไวรัสโคโรนา ขอให้ประชาชนดูแลตนเอง หากเป็นคนหนุ่มสาวขอให้วางไว้ใจได้ว่าอันตรายเท่ากับศูนย์ ส่วนคนสูงวัยอย่างเขาอาจเสี่ยงสูงขึ้น อย่างไรก็ดี เขารู้สึกสบายดีเพราะรับประทานไฮดรอกซีคลอโรวิน ยาต้านมาลาเรียที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐสนับสนุนว่ารักษาโรคโควิด-19 ได้ ก่อนหน้านี้เขาเผยกับซีเอ็นเอ็นบราซิลว่า รับประทานทั้งไฮดรอกซีคลอโรควินและแอซิโทรไมซิน ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะระหว่างรอผลตรวจครั้งที่ 4 ในรอบ 4 เดือน

ด้าน นพ.ลูอิซ เอนรีเก มันเดตตา ที่ถูกประธานาธิบดีโบวโซนารูปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขเพราะรณรงค์ให้คนสวมหน้ากากอนามัยและอยู่บ้านแสดงความเป็นห่วงว่า ประชาชนจะเชื่อประธานาธิบดีว่ายาช่วยชีวิตได้ถึงร้อยละ 90 ทั้งที่ไม่ใช่ยารักษา เป็นเพียงการดำเนินอาการของโรคนั้น เขาและรัฐมนตรีหลายคนเคยพยายามเตือนประธานาธิบดีให้ความสำคัญกับการระบาดอย่างจริงจังและมีแผนระดับประเทศในการแก้ปัญหา แต่ประธานาธิบดีไม่รับฟังและห่วงเศรษฐกิจมากกว่าชีวิตประชาชน ขอให้ประธานาธิบดีหายป่วยโดยเร็ว และขอให้นึกถึงประชาชนที่ตรวจพบในวันเดียวกันว่าติดเชื้อ เพราะคนเหล่านั้นไม่มีแพทย์ส่วนตัวดูแล 24 ชั่วโมงเหมือนประธานาธิบดี